Based on: https://reformationproject.org/case/1-corinthians-and-1-timothy/
คำถามชวนคุย 🗣️
- พระคัมภีร์ภาษาไทยมีการแปลทั้งหมดกี่เวอร์ชั่น? และมีเวอร์ชั่นใดบ้าง?
- ทำไมเราต้องมีการแปลพระคัมภีร์หลายเวอร์ชั่น? (คำตอบ)
- ถ้าเราอยากจะแปละพระคัมภีร์ เราต้องทำอะไรบ้าง? มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? (คำตอบ)
- ระหว่างการแปล ถ้าเจอคำที่เราไม่มั่นใจว่าคำนี้ภาษาเดิมแปลว่าอะไร ผู้แปลจะทำอย่างไรได้บ้าง?
อ่าน 1 โครินธ์ 6 : 9-11 และ 1 ทิโมธี 1: 5-11
คุณอาจเคยได้ยินมาว่า
ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้พูดว่า “คนรักร่วมเพศ” จะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า ดังนั้น โบสถ์ไม่สามารถที่จะสนุบสนุนความสัมพันธ์เช่นนี้ได้ เพราะมันขัดกับหลักพระคัมภีร์
แต่บทนี้กำลังจะนำเสนอว่า
ในพระคัมภีร์เล่ม 1 โครินธ์ บทที่ 6 ข้อที่ 9 ถึง 11 เปาโลตักเตือนคริสเตียนว่าบุคคลที่ยืนกรานในความบาปจะไม่มีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า ในตัวอย่างของคนบาปที่ท่านยกขึ้นมา มีคำกรีกสองคำที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมรักร่วมเพศ
"ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมจะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวเมียเขา คนนิสัยเหมือนผู้หญิง (malakoi) หรือคนที่เป็นกะเทย (arsenokoitai) คนโขมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง จะไม่ด้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก แต่ก่อนมีบางคนในพวกท่านเป็นคนอย่างนั้น แต่ท่านได้รับทรงชำระแล้ว และได้ทรงแยกตั้งท่านไว้แล้ว แต่พระวิญญาณแห่งพระเจ้าของเราได้ทรงตั้งท่านให้เป็นผู้ชอบธรรมในพระนามพระเยซูเจ้า" 1 โครินธ์ 6:9-11 (KJV)
ใน 1 ทิโมธี 1:10 คำว่า arsenokoitai ก็ถูกรวมไว้ในตัวอย่างของความชั่ว ที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน เนื่องด้วยพระคัมภีร์ไบเบิ้ลหลายฉบับที่ถูกตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1946 ขึ้นไป มักแปลความหมายของคำว่า malakoi และ arsenokoitai เป็น “พวกรักร่วมเพศ” หรือ “ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย” เราจึงควรที่จะศึกษาคำกรีกสองคำนี้อย่างลึกซึ้ง
ความหมายตรงตัวของคำว่า malakoi คือ “อ่อน” ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อสื่อถึงการขาดความควบคุมตนเอง ความอ่อนแอ ความขี้ขลาด และความขี้เกียจ
เนื่องจากคนสมัยโบราณมักมองว่าผู้หญิงมีคุณลักษณะไม่ดีเหล่านี้ คำแปลที่ถูกใช้มาเป็นเวลานานสำหรับคำนี้คือ “นิสัยเหมือนผู้หญิง” ซึ่งเป็นความโชคร้าย (แกมอยุติธรรม)
แม้ว่าส่วนมากการใช้คำนี้ในวรรณกรรมในยุคโบราณจะไม่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางเพศ แต่บางครั้งผู้ชายที่เป็นฝ่ายรับในความสัมพันธ์รักร่วมเพศจะถูกเรียกว่า malakoi จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคริสเตียนหลายคนจึงไม่สนับสนุน LGBT เพราะพวกเขาแย้งว่าพระคัมภีร์ข้อนี้ประนามความสัมพันธ์แบบนี้
- แม้ในบริบททางเพศ คำว่า malakos ส่วนมากถูกใช้เพื่ออธิบายผู้ชายที่ไร้การควบคุมตนเองในเรื่องผู้หญิง
- นักแปลคัมภีร์ไบเบิ้ลเพิ่งเริ่มเชื่อมโยงคำนี้กับความสัมพันธ์รักร่วมเพศในช่วงศรรตวรรษที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ความหมายของคำนี้ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและพบได้บ่อยในหลายศรรตวรรษก่อนหน้านั้นได้แก่ “คนอ่อนแอ” “คนขี้ขลาด” และ “คนเสเพล”
Q: ถึงแม้ว่าความหมายของคำว่า malakoi อาจไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์รักร่วมเพศ แต่เปาโลใช้คำนี้คู่กับคำว่า arsenokoitai ซึ่งทำให้ความหมายดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูง?
- คำว่า arsenokoites (ในรูปเอกพจน์) ประกอบไปด้วยคำกรีก 2 คำ arsen ซึ่งแปลว่า “ชาย” และคำว่า ซึ่งแปลว่า “เตียงนอน” คำกรีกสองคำนี้ปรากฎด้วยกันในคัมภีร์เล่มเลวีนิติ ฉบับแปลภาษากรีก บทที่ 20 ข้อที่ 13 จึงทำให้หลายคนคิดไปว่าเปาโลได้สร้างคำว่า arsenokoites เพื่อประนามพฤติกรรมรักร่วมเพศ
- แต่ตามที่นักวิชาการเรื่องพันธะสัญญาใหม่ Dale Martin ได้เขียนไว้ว่า “วิธีเดียวที่เราสามารถเชื่อถือได้ ในการให้ความหมายคำใดคำหนึ่ง คือเราต้องวิเคราะห์การใช้คำๆ นั้นในบริบทที่หลากหลายมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”
- หลังจากที่เปาโลได้สร้างคำนี้ตามที่กล่าวไปแล้วนั้น มีการใช้คำนี้ในวรรณกรรมยุคโบราณเพื่ออธิบายการกระทำอันชั่วร้ายเท่านั้น Martin ได้โต้แย้งไว้ว่า เมื่อคำนึงถึงบริบทต่างๆ คำนี้น่าจะเชื่อมโยงกับพฤติกรรมเอารับเอาเปรียบ ไม่ว่าจะทางเศรษฐกิจหรือทางเพศ และแม้ว่านั่นอาจจะรวมถึงพฤติกรรมรักร่วมเพศ แต่ความหมายนั้นน่าจะพูดถึงความสัมพันธ์เห็นแก่ตัว ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่ในความรัก
Q: แล้วมันเป็นไปได้ไหมที่เปาโลตั้งใจที่จะใช้คำว่า malakoi และ arsenokoitai คู่กันเพื่อประนามคู่ชายรักร่วมเพศที่คนหนึ่งเป็นฝ่ายรุกและอีกคนเป็นฝ่ายรับ?
- มีคำหลายคำในวรรณกรรมสมัยโบราณที่ถูกใช้เพื่ออธิบายคู่ชายรักร่วมเพศ ที่เป็นฝ่ายรุกและฝ่ายรับ เช่นคำว่า erastes และ eromenos เป็นต้น แต่กระนั้น คำว่า malakoi และ arsenokoitai ไม่เคยถูกใช้ร่วมกันโดยผู้เขียนท่านอื่นในสมัยโบราณ
- ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าเปาโลมีความตั้งใจที่จะประนามคู่ขารักร่วมเพศจริง เราควรแยกแยะให้ออกว่า ความสัมพันธ์รักร่วมเพศสมัยโบราณ ที่ขึ้นอยู่กับสถานะ อำนาจ และราคะ แตกต่างกับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
- พระคัมภีร์ฉบับแปลหลายเล่มแปลคำว่า malakoi และ arsenokoitai เป็น “พวกรักร่วมเพศ” แต่คำดังกล่าวไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจนถึงปี 1869 สำหรับภาษาเยอรมัน และปี 1892 สำหรับภาษาอังกฤษ อีกประเด็นคือ คนในสังคมยุคโบราณไม่มีหลักแนวคิดเดียวกับกลุ่มคนที่คิดคำดังกล่าวขึ้น
วิดีโอแนะนำ
นี่เป็นบทสนทนาจากงานประชุม 2019 Reconcile and Reform นี้ เล่าเรื่องราวถึงที่มาของคำว่า “คนรักร่วมเพศ” ที่ถูกใช้ครั้งแรกในพระคัมภีร์ฉบับ Revised Standard Version ในปี 1946 และการคัดค้านของนักเรียนโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ที่นำไปสู่การแก้ไขคำนั้นในที่สุด
คำถามชวนคุย 🗣️
- คุณได้เรียนรู้อะไรใหม่จากบทเรียนวันนี้บ้าง?