ชุมชนคริสเตียนที่ยืนยันอัตลักษณ์ของ LGBTQIA+

บทที่ 8: พระธรรมโรมพูดถึงตัณหาส่วนเกิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ

Based on: https://reformationproject.org/case/romans/

อ่าน รม. 1:26-32

คำถามชวนคุย 🗣️
  • คุณคิดยังไงกับการที่เปาโลสอนว่า ผู้ชายไว้ผมยาวเป็นเรื่องน่าอายเพราะขัดกับธรรมชาติ (1 คร. 11:14)
คำสอนที่สนับสนุน LGBTQ+
💡
พระธรรมโรมพูดถึงตัณหาส่วนเกิน ซึ่งไม่เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ
คำสอนที่ไม่สนับสนุน LGBTQ+
ในพระธรรมโรม 1 เปาโลประณามพฤติกรรมรักร่วมเพศ ว่ามันนั้นน่าละอายและผิดธรรมชาติ ดังนั้น คริสตจักรจึงต้องปฏิเสธความสัมพันธ์เหล่านี้

ในพระธรรมโรม 1:26-27 เปาโลประณามพฤติกรรมมักมากในกามของกลุ่มชายรักชาย และกลุ่มหญิงรักหญิง

“เพราะเหตุนี้ พระเจ้าทรงปล่อยให้เขามีกิเลสตัณหาอันน่าอัปยศ พวกผู้หญิงของเขาก็เปลี่ยนจากเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติ ให้ผิดธรรมชาติไป ส่วนผู้ชายก็เลิกมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงให้ถูกตามธรรมชาติเช่นกัน และเร่าร้อนด้วยไฟราคะตัณหาที่มีต่อกัน ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันประกอบกิจอันน่าละอายอย่างยิ่ง เขาจึงได้รับผลกรรมอันสมควรแก่ความผิดของเขา”

โรม 1:26-27

ในโลกสมัยโบราณ ผู้คนตั้งสมมติฐานว่า ทุกคนสามารถมีความสุขกับการร่วมเพศกับเพศตรงข้าม แต่คนบางกลุ่มอาจมีพฤติกรรมที่นอกเหนือจากนั้น ด้วยความมักมากในกาม จึงทำให้พวกเขาชอบเพศเดียวกัน

คำถาม: ถึงแม้ว่าเปาโลจะโจมตีพฤติกรรมมักมากในกาม แต่เขาใช้คำว่า “ผิดธรรมชาติ” และ “น่าละอาย” กับความสัมพันธ์รักร่วมเพศ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขามองความสัมพันธ์แบบนี้เป็นบาป ซึ่งไม่เกี่ยวว่าสองคนนั้นจะรักกันหรือคบกันมานานมากแค่ไหน

คำถาม: แล้วที่เปาโลพูดว่า “เขาจึงได้รับผลกรรมอันสมควรแก่ความผิดของเขา” ในพระธรรมโรม 1:27 เขาหมายความว่าอย่างไร?

📕

คริสเตียนควรเห็นด้วยกับเปาโลว่า พฤติกรรมทางเพศที่เกิดจากความกำหนัดอันเอาตัวเองเป็นที่ตั้งนั้นไม่ถูกต้อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเพศเดียวกัน ที่รักและตกลงปลงใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกัน เราต้องมองเรื่องนี้ด้วยวิธีคิดที่ต่างกัน

คำถามชวนคุย 🗣️
  • คุณได้เรียนรู้อะไรใหม่จากบทเรียนวันนี้บ้าง?